วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เรือเมล์รอรัก


เรือเมล์เร่รัก
วันนั้นผมอารามรีบจะกลับบ้านเพราะว่ากลัวจะติดฝนกลางทาง เห็นเรือข้ามฟากกำลังจะออกอยู่พอดีก็เลยโดดขึ้นไปเบียดกับเขาเลย เรือแล่นออกไปได้ไม่เท่าไหร่ฝนก็กระหน่ำลงมาจริงๆ พวกผู้โดยสารแห่มาออกันตรงกลางลำจนแน่นจังหวะนี้เองที่ผมไม่รู้ตัวเลยว่า ธัมบ์ไดรว์สุดรักที่ห้อยคออยู่ทุกวี่วันจะไปเกี่ยวกันกับกระเป๋าของยายคนงานที่ยืนเบียดอยู่หน้าผมจนมันหลุด ผมได้ยินเสียงดังแกร๊กแต่ไม่ทันได้เอะใจ พอเรือจอดพวกผู้โดยสารก็กรูกันวิ่งขึ้นไปหลบฝนบนท่าเรือผมเองก็รีบไปต่อรถกลับบ้านเหมือนกันทีนี้พอถึงบ้านผมก็รีบถอดเสื้อผ้าออก แต่ปรากฏว่าสร้อยคอผมมันเหลือแต่ปลอกเท่านั้นที่ติดอยู่ เท่านั้นแหละผมตาแหกเลย งานเขียนผมเป็นสิบๆเรื่องแล้วไหนจะภาพอีก ตายแหงๆเลยผมนึกถึงตอนที่ได้ยินเสียงอะไรหล่นในเรือ เลยปักใจเชื่อว่ามันจะต้องตกที่นั่น แต่ผมก็ลองเดินไปหาตลอดทางที่ผ่านมานะครับ ก็ไม่เจออะไรเลย ธัมบ์ไดรว์ผมมันหน้าตาแปลกๆครับ เป็นแบบที่ทำเลียนแบบหมากฝรั่งยี่ห้อดังเพราะทรงมันคล้ายๆกัน แต่ว่ามันจะหนากว่าหน่อยแถมยังสกรีนลายเหมือนกันอีกด้วยแต่การที่จุกมันหลุดออกมาทำให้คนมองดูรู้ว่ามันคือธัมบ์ไดรว์ 2 จิ๊กราคาตั้งเกือบพัน ไอ้เงินไม่เสียดายหรอกครับแต่งานที่เขียนเอาไว้แล้วกับรูปภาพประกอบนี่สิกว่าผมจะไปถึงท่าเรือเมล์ก็ค่ำ ความหวังผมจะหมดอยู่รอมร่อแล้ว จำก็จำไม่ได้ด้วยว่าขึ้นลำไหนมา ดูๆทันก็เหมือนกันหมดแถมตอนนั้นผมเองก็รีบด้วยผมเห็นเงาหนุ่มรุ่นๆสามคนนั่งดูดบุหรี่กันอยู่บนท่าข้างๆ คนหนึ่งใส่แต่กางเกงยีนส์เข่าขาดตัวเดียวหุ่นเพรียวแกร่ง ที่เอวห้อยตะกรุดและปลัดขิกอันใหญ่ เขานั่งเอาขาราน้ำอยู่ อีกคนใส่กางเกงขาสั้นสีกากีเหมือนเป็นเด็กนักเรียนตัวเดียวแถมตัดผมสกินเฮดหุ่นผอมๆบางๆเหมือนกัน ส่วนคนสุดท้ายตัวใหญ่สุดตัวดำๆล่ำสันใส่ชุดเครื่องแบบคนขับเรือเอาเสื้อพาดบ่าไว้ใส่แต่เสื้อกล้ามสีขาวข้างใน กล้ามเนื้อต้นแขนและหัวไหล่จรดแผ่นหลังสักยันต์พรึ่บในความมืดนั้นผมก็มองเห็นหน้าเขาไม่ชัดเท่าไหร่ ผมมองไปที่พนักงานเก็บตังค์ก็ไม่อยู่แล้ว และถึงถามไปก็คงไม่รู้อะไรอยู่ดี ผมเลยตัดสินใจเดินไปหาสามหนุ่มนั่น“ พี่ครับๆ มีใครเก็บธัมบ์ไดรว์ได้ไหม?“ พี่คนขับเรือหันมามอง หน้าตาเขาก็โอเคอยู่แต่ไว้เคราสั้นๆที่คางดูแล้วน่ากลัว หุ่นก็ล่ำบึ้กแถมยังสักยันต์ด้วย เขาส่ายหัว “ ไม่รู้จัก “ผมเลยเอาจุกที่เหลือออกมาให้ดู ก็พอดีกับที่สองหนุ่มนั่นเดินมาสมทบ น้องคนที่เป็นเด็กนักเรียนหล่อมากเลยครับ เสียดายที่หัวแกมีแผลเป็นหลายที่ ท่าทางจะเกเรไม่ใช่ย่อย แต่อีกคนที่ใส่ยีนส์เข่าขาดตัวเดียวหน้าตาก็แบบบ้านๆ เขาขมวดคิ้วดูแล้วถามผม “ ไฟแช็คเหรอ ? ““ ไม่ใช่ไฟแช็คครับ ธัมบ์ไดรว์ ผมเก็บข้อมูลงานเอาไว้น่ะครับมันสำคัญมากด้วย “ผมทำมือให้ดู “ เป็นแท่งแบนๆยาวลายมันคล้ายๆห่อหมากฝรั่ง “ไอ้น้องคนโย่งดีดนิ้วดังเป๊าะ “ เออ นั่น กูว่าแล้วว่ามันไม่ใช่ไฟแช็ค ปากมันแบนๆมีรู ““ ครับๆ อันนั้นน่ะแหละครับ “ ผมดีใจตัวสั่นเลย“ ไอ้กิตมันกวาดเจอเมื่อหัวค่ำนึกว่าไฟแช็คเลยเก็บเอาไว้ เฮ้ย ไปเอามาให้เขาดิวะ“ น้องคนที่ใส่กางเกงนักเรียนวิ่งขึ้นไปบนเรือที่จอดอยู่ สักพักก็โดดกลับมา ในมือมีธัมบ์ไดรว์ของผมด้วย ผมล่ะอยากจะแหกปากร้องไชโย“ ขอบคุณครับพี่ “ ผมยกมือไหว้คนขับเรือ “ น้องขอบใจนะครับ “ผมรับมาแล้วรีบกดฝาปิด ถอนหายใจอย่างโล่งอก คราวนี้ผมเก็บใว้ในกระเป๋าเลย“ เออ ไม่เป็นไรหรอก วันหลังถ้ารู้ว่าสำคัญก็เก็บไว้ดีๆนะ “ พี่คนที่เป็นคนขับเรือบอกผมละซึ้ง ดูเขาร้ายๆกันทั้งนั้นไม่คิดว่าเขาจะมีน้ำใจขนาดนี้ แต่ผมคงจะต้องเลิกล้มความคิดที่ว่าวัดคุณภาพคนกันด้วยการศึกษาเสียแล้ว นี่ถ้าหากผมทำมันหล่นหายที่มหา’ลัย อย่าหวังเลยว่าจะได้มันคืน“ แล้วนี่จะกลับยังไงล่ะ “ พี่คนขับเรือถาม“ อ๋อ บ้านผมอยู่ตรงวัด.....นี่เองครับ นั่งสามล้อหรือเดินไปก็ได้ ““ เออ กลับดีๆล่ะ โชคดีไอ้น้อง “ พี่เขายิ้มให้ผมเห็นเขาดีดบุหรี่ลงน้ำแล้วเดินกลับไปลงเรือ ผมมองตามไปเห็นคนตัวโย่งหิ้วพวงปลาดุกรัสเซียตัวเป้งกับขวดเหล้าขาวสองขวด สงสัยจะตกเอาที่ท่าเรือนี่แหละเพราะว่ายังเป็นๆอยู่เลย ไอ้หนุ่มกางเกงนักเรียนที่ชื่อกิตโดดตามลงไป ที่จริงผมน่าจะซื้ออะไรมาให้เขาทานกันนะจะได้เป็นสินน้ำใจนึกได้ดังนั้นผมก็เดินย้อนกลับออกไปทางหน้าท่าเรือซึ่งตอนนี้เงียบเหงาไปมากแล้วเนื่องจากไม่ใช่เวลาเรือเดินจึงไม่มีผู้โดยสาร และตลาดก็กำลังวายตามผมแวะเข้าร้านสะดวกซื้อสั่งพวกแหนมกับของขบเคี้ยวที่น่าจะทานกับเหล้าได้ น้ำอัดลม แล้วก็บุหรี่ ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนเขาจะดูดบุหรี่....ซองเขียวพอได้ของครบแล้วผมก็หิ้วเดินกลับไปหาพวกเขาที่เรือ ตายล่ะชื่ออะไรกันบ้างผมเองก้ไม่ได้ถาม ดูซิคนมีบุญคุณกันแท้ๆ แต่อย่างน้อยผมก็จำชื่อน้องกิตรูปหล่อได้ล่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: